การสำรวจสามารถแบ่งออกได้หลายอย่างซึ่งรวมการสำรวจจากภาพถ่ายทางอากาศสิ่งที่ต้องคำนึงถึงการสำรวจก็คือ วิธีการสำรวจและคำนวณ เครื่องมือที่ใช้จะยากง่ายแตกต่างหันไป การแบ่งชนิดของการสำรวจภาคพื้นดิน จะมีดังนี้
1. การสำรวจขั้นสูง (Geodetic Surveying)
เป็นวิธีการสำรวจที่คิดความโค้งของโลกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่น ระยะทางจะต้องเป็นระยะบนระดับน้ำทะเลปานกลาง หรือที่ผิวของรูป Ellipsoid ค่าระดับจะต้องเป็นค่าที่ผิว ความสูงที่ได้จะเป็นความสูง ทิศทางก็จะเป็นภาคของทิศจริง ซึ่งคิดที่ผิว Sphetoid การสำรวจชนิดนี้จะใช้กับบริเวณกว้างขวาง ใช้คณิตขั้นสูงในการคำนวณ และการคำนวณจะต้องอ้างอิงกับโครงข่ายที่มีความละเอียดและจุดบังคับโครงข่ายจะใช้เป็นหมุดบังคับแผนที่ การสำรวจชนิดนี้สามารถจะวัดขนาด และรูปร่างของโลกได้ สมารถจะตรวจสอบข้อมูลดาวเทียมหรือตรวจสอบพิกัดดาวเทียมได้เช่นกัน ปัจจุบันคอมพิวเตอร์และซอฟแวร์เป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจขั้นสูงรวมทั้งการรังวัดทางดาราศาสตร์ และการสำรวจดาวเทียม
2. การสำรวจพื้นราบ (Plane Surveying)
เป็นการสำรวจโดยคิดว่าโลกแบบราบ เพราะฉะนั้นจึงใช้กับพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น การสำรวจเพื่อการก่อสร้างและการสำรวจเพื่อการรังวัดที่ดิน ซึ่งจะกล่าวถึงในตำราเล่มนี้เป็นส่วนมาก
3. เป็นการสำรวจทางภูมิประเทศ (Topographic Survey)
เป็นการสำรวจเพื่อกำหนดตำแหน่งทางราบและทางดิ่ง เพื่อให้ได้รายละเอียดจากสิ่งมนุษย์สร้างและที่มีในธรรมชาติในบริเวณที่ต้องสำรวจ ปัจจุบันจะทำการสำรวจเพื่อทำเป็นแผนที่มูลฐาน (Base Map) เพื่องานสารสนเทศภูมิศาสตร์ การสำรวจแผนที่ภูมิประเทศ จะสามารถนำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศมาใช้ในปัจจุบันนี่ภาพถ่ายดาวเทียมที่ประเทศที่มีดาวเทียม
โดยเฉพาะในปัจจุบันสามารถสแกนภาพถ่ายทางอากาศเข้าไปเก็บในคอมพิวเตอร์ได้ เราเรียกว่า Image processing
4 . การสำรวจทางอุทกศาสตร์ (Hydrograpinic Survey)
เป็นการสำรวจหาความเร็วของกระแสน้ำ ความลึกของท้อองทะเล การทำแผนที่ฝั่งทะเล ท้องทะเลเพื่อที่จะใช้ทำแผนที่เดินเรือ ในปัจจุบันการสำรวจจะรวมการสำรวจนอกจากชายฝั่งเพื่อหาน้ำมันและแก๊ส นอกจากนั้นข้อมูลการสำรวจยังใช้ในการออกแบบและก่อสร้างท่าเรือ เส้นทางเดินเรือในแม่น้ำ การป้องกันมลพิษในแม่น้ำ การวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเล
5. การสำรวจเพื่อการเอกสารกรรมสิทธิ์ที่ดิน (Cadastral Survey)
เป็นการสำรวจเพื่อบันทึกขอบเขตเมือง อำเภอ ตำบล และเขตกรรมสิทธิ์ที่ดิน ซึ่งในเมืองไทยจะเน้นการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินซึ่งกรมที่ดิน เป็นผู้รับผิดชอบ และดำเนินการวางเส้นโครงแผนที่ กำหนดหมุดบังคับ โดยใช้ดาวเทียม และทำแผนที่ในระบบ UTM
6. การสำรวจเพื่องานวิศวกรรม (Engincering Surveying)
เป็นการสำรวจเพื่อการออกแบบก่อสร้าง การสำรวจจะเป็นการทำแผนที่ภูมิประเทศซึ่งจะทราบพิกัดฉาก และค่าระดับ ถ้าเป็นการสำรวจพื้นที่ขนาดเล็กก็คิดว่าเป็นพื้นราบ เช่น การสร้างตึก ถนน อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก ถ้าเป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ก็จะใช้การสำรวจขั้นสูง
การสำรวจจะแบ่งขั้นตอนออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้
1. ขั้นการออกแบ
2. ขั้นก่อนการก่อสร้าง
3. ขั้นการติดตามความก้าวหน้าในการก่อสร้าง
การสำรวจตรวจสอบ
การสำรวจเส้นทาง (Route surveying)
เป็นการสำรวจเพื่อกำหนดหมุดบังคับทางราบ (horizontal Control) ซึ่งจะบอกค่าพิกัด ปละหมุดบังคับทางดิ่ง (vertical Control) ซึ่งเราเรียกว่าหมุดหลักฐาน การระดับ (มฐ = BM = Beench Mark) นอกจากกำหนดหมุดแล้วยังมีการวางแนวศูนย์กลาง ซึ่งจะเป็นแนวตรงหรือแนวโค้งก็ได้ เช่นถนน ทางรถไฟ สำหรับการสื่อสารก็จะมีแนวของเคเบิงใยแก้ว (fiber optic) นอกจากนั้นยังมีแนวของสายไฟฟ้าแรงสูง
การสำรวจเหมืองแร่ (Mine Surveying)
ปัจจุบันจะมีการสำรวจทางอวกาศ โดยใช้ภาพถ่ายจากดาวเทียมเพื่อสำรวจทางธรณีวิทยา สำรวจใต้ดินเพื่อหาโครงสร้างของเปลือกโลก และแหล่งแร่ กาสำรวจภาคพื้นดินเพื่อทำแผนที่และกำหนดหมุดบังคับทางราบทางดิ่ง เอการเจาะอุโมงค์ การทำแผนที่ใต้ดิน
2.16 การสำรวจพิเศษอื่นๆ
1. การสำรวจทางธรณีวิทยา (Geolgical Survey) เป็นการสำรวจเพื่อหาแร่ธาตุเช่นชนิดของหินการเก็บตัวอย่างหิน จะต้องบอกพิกัดจุดที่เก็บมาด้วย ปัจจุบันเครื่อง Gps receiver แบบมดดือถือจะสมารถบอกพิกัดภูมิศาสตร์และพิกัด UTM ได้ทำให้ได้ตำแหน่งที่แน่นอน
2. การสำรวจดิน (Soil Survey) เป็นการสำรวจเก็บตัวอย่างชนิดของดิน เพื่อการเกษตร เพื่อใช้วางแผนปรับปรุงบำรุงดิน ในการเก็บตัวอย่างก็จะต้องหาพิกัดมาด้วย ซึ่งอาศัยเครื่อง GPS receiver ปัจจุบันสามารถใช้ดาวเทียมถ่ายภาพเพื่อหาชนิดของดินได้ ชนิดของดินจะแสดงด้วยพื้นที่บนแผนที่
3. การสำรวจทางโบราณคดี (Archacological Survey) เป็นการสำรวจทำแผนที่โบราณสถาน และรายละเอียดต่าง ๆ ของโบราณวัตถุ การสำรวจที่ถูกหลักวิชาการสำรวจนั้น เจ้าหน้าที่จะต้องสามารถกำหนดเขตโดยกำหนดพิกัดเพื่อป้องกันการบุกรุก มีอำนาจในการออกเอกสารสิทธิ์ของกรมศิลปากรเอง
4 . การสำรวจป่าไม้ (foresty Survey) เป็นการสำรวจเพื่อกำหนดขอบเขตของป่าไม้ที่แน่นอน มีพิกัดควบคุม และควรสามารถออกเอกสารสิทธิ์ของกรมฯ นอกจากนั้นการสำรวจเพื่อการจำแนกป่า เพื่อปรับปรุงป่า แบ่งเขตสัมปทานเขตอุทยานแห่งชาติ ปละเขตอนุรักษ์สัตว์ป่า
5 . การสำรวจเพื่อทำแผนที่ทางทหาร (Military Survey) การทำแผนที่ทางทหาร สามารถทำการสำรวจทางอวกาศ โดยเฉพาะภาพถ่ายจากดาวเทียมเครื่องบินการสำรวจภาคพื้นดิน การสำรวจทางอุทกศาสตร์ เพื่อนำมาทำแผนที่ทางทหาร ในประเทศไทยมีกรมแผนที่ทหารเป็นผู้รับผิดชอบ
การสำรวจด้วยเข็มทิศ (compass surveying)
การสำรวจด้วยเข็มทิศนี้เป็นการสำรวจเบื้องต้นที่ต้องการผลงานหยาบ ๆ ใช้ในพื้นที่ที่ไม่กว้างขวางมากนักปัจจุบันเนื่องจากพื้นที่มีความสำคัญมากขึ้น การทำแผนที่ด้วยเข็มทิศมีความสำคัญน้อยลง แต่ในแง่การศึกษาการทำสำรวจด้วยเข็มทิศจะใช้เป็นหลักการสำรวจด้วยกล้องวัดมุม ๆ ไม่ว่าจะเป็นชนิด Glass Scale หรือ Electronic
ถ้าหากว่าแม่เหล็กมีรูปร่างและขนาดเล็กมีความยาวมากกว่าส่วนกว้าง ซึ่งเรียกว่า ถ้าถูกแขวนลอยอย่างอิสระ ปลายเข็มแม่เหล็กจะชี้ไปในแนวเหนือใต้ ซึ่งจะขนานกับเส้นแรงแม่เหลกฌลก เส้นนี้จะใช้แทนเมอริเดียนแม่เหล็กหรือทิศเหนือแม่เหล็ก
4.2 ชนิดของเข็มทิศ
1. Poket Compass เป็นเข็มทิศขนาดเล็กที่พกพาไปได้สะดวก
2. เข็มทิศเดินเรือ เป็นเข็มทิศชนิดพิเศษที่ Support 4 อัน สองอันแรกจะอยู่บนสองอันหลัง
3. Surbeyor’s Compass
4. Tubular Compass หรือ Trough Compass
5. Transit Compass
6. Compass Theodolite
7. เข็มทิศแบบดิจิตอล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น