ในการสำรวจพื้นราบ (plane Surveying) นักศึกษาจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับวิชาเราขาคณิต ตรีโกณมิติ ฟิสิกส์ ดาราศาสตร์ และคณิตศาสตร์ต่าง ๆ เกือบทุกเรื่อง ทั้งนี้เพื่อให้เข้าใจการปรับแก้งานสำรวจและกฎ สูตรต่างๆ ทางการสำรวจ
ในปัจจุบันเครื่องคำนวณหรือ computer เข้ามามีบทบาททางการสำรวจ ซึ่งอาจจะมากกว่าสาขาวิชาอื่น ๆ มาฉะนั้นนักสำรวจหรือช่างสำรวจ จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับเครื่องคำนวณตั้งแต่เครื่องคิดเลขธรรมดา Pocket computer และ Micro computer รวมทั้ง Computer ขนาดใหญ่ ทั้งนี้เพราะต้องใช้เก็บข้อมูลต่างๆ รวมทั้งโปรแกรมการคำนวณ และการ Plot รูป แผนที่ต่าง ๆ
2.4 หน่วยการวัดมุม
หน่วยการวัดมุมมีหลายชนิด ซึ่งกล้อง digital Theodolite หรือ Electronic Thedolite สามารถจะวัดได้ทุกระบบตามที่ต้องการ หน่วยการวัดมุมมีดังนี้
1. SEXAGESIMAL SYSTEM ระบบนี้เป็นระบบอังกฤษ คือ ระบบมุมมีหน่วยเป็นองศา (Degree) ลิปดา (Minute) พิลิปดา (Second) 1 มุมฉากมีค่าเท่ากับ 90 องศา
ถ้ามาตราส่วนขนาดกลางใช้แผนที่สี่เหลี่ยมผืนผ้าแทนสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีขนาดมาตราส่วน 1: 50000 เช่นขนาดของแผนที่ 12 × 18 ลิปดา ก็จะใช้ขนาดมาตราส่วนที่โตกว่า เช่น 1: 2500
การใช้กระดาษ A 1 ถ้าขนาดของพื้นที่ 10×20 กม. จะใช้มาตราส่วน 1: 2500 ถ้าขนาดของพื้นที่ 20 × 40 กม. จะใช้มาตราส่วน 1: 50000 ๙งเป็นขนาดของแผนที่ 40 × 80 ซม. และ
60 × 84 ซม. ด้านยาวของแผนที่จะวางยาวในแนวออก – ตก ได้ส่วนสัญลักษณ์ต่าง ๆ จะหมายเหตุไว้ข้างล่าง
บางมาตราส่วนจะใช้เนื้อที่ของแผนที่เท่ากับ 50 × 50 ซม. :ซึ่งเท่ากับ มาตราส่วน
1: 20000 จะคลุมพื้นที่ 10 × 10 กม. ถ้าใช้ขนาดกระดาษให้เหมาะสมจะสามารถแทนพื้นที่ขนาด
8 × 16 กม. ได้
1. มาตราส่วนแผนที่ที่ใช้ในงานต่าง ๆ
งานวิศวกรรมต่าง ๆ
ใช้ในงาน | มาตราส่วน | ใช้ในงาน | มาตราส่วน |
การสำรวจเมือง การสำรวจเพื่อ การออกแบบ | 1 : 50000 1 : 20000 1 : 10000 1 : 5000 1 : 2500 1 : 2500 1 : 2000 1 : 1250 1 : 1000 1 : 500 | ผังบริเวณ งานก่อสร้าง งานเขียนแบบ แบบขยายส่วนสำคัญ | 1 : 1250 1 : 1000 1 : 500 1 : 200 1 : 100 1 : 50 1 : 20 1 : 10 1 : 5 1 : 1 |
2. งานรังวัดที่ดิน (กรมที่ดิน)
แผนที่ระวางใช้มาตราส่วน 1/4000, 1/2000, 1/1000, 1/500
มาตราส่วนในการสร้างต้นร่างแผนที่เฉพาะแปลง ใช้มาตราส่วนตามเกณฑ์ดังนี้
เนื้อที่ | มาตราส่วน |
1 - 49 ตารางวาใช้ 50 - 100 ตารางวาใช้ 101 – 400 ตารางวาใช้ 1 – 5 ไร่ใช้ 5 -50 ไร่ใช้ 50 – 250 ไร่ใช้ 250 – 1000 ไร่ใช้ มากกว่า 1000 ไร่ใช้ | 1 : 125 1 : 250 1 : 500 1 : 1000 1 : 2000 1 : 4000 1 : 8000 1 : 16000 ขึ้นไป |
3. ลักษณะของงานสำรวจ งานสำรวจจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ
1. งานสนาม (Field work)
2. งานสำนักงาน (Office work)
3. การรักษาและปรับแก้เครื่องมือ (Care and Adjustment of the Instrument)
งานสนาม เอกลักษณ์ของการสำรวจนี้จำเป็นจะต้องวัดค่าต่าง ๆ เช่น ระยะ วัดมุม วัดหาความสูง เพราะฉะนั้น ในงานสนาม ผู้ที่เป็นช่างสำรวจจะต้องมีความรู้เรื่องการวัดอย่างแม่นยำและแน่นอน เพราะงานสนามหรืองานสำนักงานจะสมบูรณ์หรือไม่ขึ้นอยู่กับสิ่งต่าง ๆ หลายอย่างดังนี้
1. วางแผนการกำหนดแบบสำรวจหรือแผนที่ เช่น ข้อกำหนดของการสำรวจ ระบบพิกัดที่ใช้ การเตรียมเครื่องมือเพื่อให้เหมาะกับงาน หรือถูกต้องตามข้อกำหนด
2. ระวังรักษาเครื่องมือโดยเฉพาะเวลาโยกย้ายในเวลาทำงาน รวมทั้งการปรับแก้เครื่องมือให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
3. กำหนดสถานที่จะทำ BM หมุดรอบวง หมุดการสามเหลี่ยม ในสถานที่มั่นคง แข็งแรง มีสิ่งสำคัญเป็นจุดอ้างอิงเพื่อสะดวกในการค้นหา เช่น สะพาน เจดีย์
4. การกำหนดหมุดจะต้องกำหนดให้คลุมพื้นที่สำรวจให้ทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็นหมุดทางราบหรือทางดิ่ง
5. จดหรือบันทึกค่ารังวัดต่าง ๆ ด้วยความระมัดระวัง
6. ทำการวัดมุม วัดระยะหรือส่องค่าระดับด้วยความระมัดระวัง
7. ทำหารส่องดาวหรือดวงอาทิตย์ หรือใช้ Gyroattachment เพื่อหาทิศเหนือจริง หรือใช้เครื่องมือหาพิกัดของหมุดแรกออกหรือเข้าบรรจบ เพื่อหาพิกัดฉาก และพิกัดภูมิศาสตร์
8. ควรจะคำนวณตรวจสอบค่าต่าง ๆ ที่ได้ทำเสร็จแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่างานนี้ถูกต้องก่อนเข้ากรม
9. การให้ระดับและให้แนวในการก่อสร้าง หรืองานวิศวกรรมทั่วไปจะต้องทำด้วยความแม่นยำทั้งการคำนวณและการส่องกล้อง ตลอดจนการตรวจสอบเขตกรรมสิทธิ์ก่อนการก่อสร้าง
10. จะต้องแก้ไขแบบสำรวจ หรือสำรวจใหม่ เมื่อพบข้อผิดพลาดขึ้นซึ่งเรียกว่า Asbuilt Survey
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น